Chiang Rai News
ศาลพิพากษาลงโทษครูฝึกทหาร 2 นาย คดีทหารเกณฑ์เสียชีวิตหลังถูกลงโทษที่ค่ายดังเชียงราย
เชียงราย – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 มีคำพิพากษาลงโทษครูฝึกทหาร 2 นาย จากเหตุทหารเกณฑ์วัย 27 ปีเสียชีวิต หลังถูกลงโทษในค่ายทหารชื่อดังของจังหวัดเชียงราย
เมื่อวันพฤหัสบดี ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการจาก สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 5 เป็นโจทก์ โดยภรรยาของผู้เสียชีวิต นางแก้วกัญญา แซ่หลี เข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วม พร้อมกับบิดาของผู้เสียชีวิต นายสุวิทย์ เวียงบรรพต
ผู้เสียชีวิตคือ พลทหารกิตติธอน ทหารเกณฑ์ผลัดแรก อายุ 27 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดอักเสบ
จำเลยเป็นนายทหารยศร้อยโท (ครูฝึก) และนายทหารยศสิบเอก (ผู้ช่วยครูฝึก) ถูกฟ้องตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 6 และ 36 ประกอบมาตรา 83 แห่ง ประมวลกฎหมายอาญา คดีเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ตอนกลางคืน ครูฝึกตรวจพบว่ามีทหารเกณฑ์หลายคนสูบบุหรี่ในเรือนนอน ซึ่งผิดระเบียบค่าย (อ้างอิงเหตุการณ์: incident in July 2023)
อัยการระบุว่า ร้อยโทอนุญาตให้ผู้ช่วยครูฝึกสั่งลงโทษแบบรวมทั้งหน่วย รวมถึงพลทหารกิตติธอน ให้ทำท่าฝึกทางกายตั้งแต่เวลา 19.30 น. ถึง 20.00 น. นานเกินสมควร จากนั้นสั่งให้ไปนอนนอกอาคารตลอดทั้งคืน
ศาลรับฟังว่า สภาพแวดล้อมในคืนนั้นหนักหน่วง ผู้เสียชีวิตมีเสื้อผ้าชื้น บางนายไม่มีเครื่องนอน และอากาศเย็นกว่าปกติ เพราะมีฝนตกมาก่อนในวันเดียวกัน
ฝ่ายโจทก์ชี้ว่า การลงโทษดังกล่าวขัดคำสั่งกองทัพ ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ว่าด้วยการลงทัณฑ์และการออกกำลังกาย ซึ่งกำหนดกรอบการลงโทษด้วยการออกกำลังกายสำหรับทหารใหม่ไว้ชัดเจน ไม่เกิน 12 ท่า หรือไม่เกิน 12 นาทีต่อครั้ง
คำสั่งเดียวกันยังห้ามการลงโทษแบบ “เหมารวม” และเตือนให้หลีกเลี่ยงการกระทำที่เสี่ยงก่อให้เกิดอันตราย อีกทั้งกำหนดให้มีช่วงพักอย่างน้อย 2 ถึง 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน ภายในช่วงเวลา 18.00 น. ถึง 21.00 น. อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
เหตุผลที่ศาลเห็นว่ามีความผิด
ศาลวินิจฉัยว่า ประเด็นสำคัญคือ จำเลยทั้งสองกระทำตามข้อกล่าวหาหรือไม่ ฝ่ายโจทก์นำพยาน 4 ปาก พร้อมโจทก์ร่วมทั้งสองมาเบิกความ โดยรายละเอียดที่เล่าไปในทิศทางเดียวกันและสอดคล้องกัน
ศาลยังพิจารณาคำบอกเล่าของภรรยาผู้เสียชีวิต ซึ่งมาจากสิ่งที่ผู้เสียชีวิตเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการถูกลงโทษ ศาลเห็นว่าเป็นลักษณะการเล่าความยากลำบากในชีวิตประจำวันของคู่ชีวิต มากกว่าจะเป็นการกล่าวหาเพื่อใส่ร้าย
พยานเอกสารสำคัญคือคำสั่งกองทัพวันที่ 14 มิถุนายน 2566 รวมถึงคำให้การบางส่วนของจำเลยที่สอดรับกับข้อเท็จจริงของฝ่ายโจทก์
ศาลเชื่อว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตมีสุขภาพปกติ อยู่ในค่ายตลอด หลังเหตุลงโทษผ่านไป 2 วัน ผู้เสียชีวิตเริ่มป่วย ต่อมาถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งในชั้นพิจารณามีการเรียกว่า “mud fever” และเสียชีวิตในอีก 9 วันหลังถูกลงโทษ
แพทย์เบิกความถึงลักษณะโรค และความเชื่อมโยงกับสภาพการลงโทษที่มีการกล่าวอ้าง ศาลเห็นว่าพยานฝ่ายจำเลยยังหักล้างน้ำหนักพยานของฝ่ายโจทก์ไม่ได้ จึงวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานกระทำการโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือเป็นการปฏิบัติที่ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามกฎหมายปี 2565
ศาลลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี และลดโทษลง 1 ใน 3 เนื่องจากเห็นว่าพยานฝ่ายจำเลยมีส่วนช่วยให้การพิจารณาคดีเดินหน้า เหลือจำคุกคนละ 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา, ต่อมา ศาลอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ กำหนดหลักทรัพย์คนละ 60,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

