Crime News
ตำรวจยึดยาไอซ์และเคตามีนในจังหวัดเชียงแสน และจับกุมผู้ต้องสงสัย 4 ราย
ป.ป.ส.นำกำลังรวบ 4 ผู้ต้องหาไทย-เมียนมา ลอบขนไอซ์และคีตามีนเข้าไทย ชี้ตัวการหลักอยู่ท่าขี้เหล็ก
เชียงราย, ป.ป.ส.ร่วมกับหลายหน่วยงานแกะรอยเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดข้ามแดน จับกุมผู้ต้องหา 4 คน ทั้งคนไทยและชาวเมียนมา พร้อมของกลางไอซ์และคีตามีน หลังพบรูปแบบการทำงานเป็นขั้นตอน ตั้งแต่เช่าบ้านเป็นจุดพัก เปลี่ยนป้ายทะเบียนรถเพื่อข้ามแดน และใช้รถจักรยานยนต์นำทาง
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่
- นายสาคร อายุ 54 ปี ชาว อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
- น.ส.ประภัสสร อายุ 33 ปี ชาว อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
- นายไซ วุน อายุ 34 ปี ชาว จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
- นายไซ เซา ติ๊บ อายุ 21 ปี ชาวไทใหญ่ อาศัยอยู่ที่เมืองเชียงตุง ประเทศเมียนมา
แกะรอยรถกระบะเปลี่ยนป้าย ข้ามไปท่าขี้เหล็ก
คดีนี้เริ่มจากวันที่ 23 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลว่าจะมีรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ขึ้นไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย จึงเฝ้าติดตามจนพบรถขับมุ่งหน้าไป อ.แม่สาย
ต่อมารถคันดังกล่าวเข้าไปพักที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ก่อนเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนเป็นของเมียนมา หมายเลข 7J 3104 แล้วขับข้ามแดนไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน รถคันเดิมขับกลับเข้าฝั่งไทย แล้วกลับเข้าไปในบ้านหลังเดิมเพื่อสลับกลับมาใช้ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ตามเดิม ระหว่างทางพบว่ามีรถจักรยานยนต์ขับนำหน้า และมีรถกระบะอีกคัน โตโยต้า วีโก้ สีทอง ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ วิ่งตามและสลับขึ้นนำเป็นระยะ
บุกตรวจค้นบ้านที่เชียงแสน พบไอซ์ 120 ก้อน และคีตามีน 120 กิโลกรัม
เมื่อขบวนรถมาถึงพื้นที่หมู่ 1 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ได้แวะเข้าบ้านหลังหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าปิดล้อมและตรวจค้น พบผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ภายใน
จากการตรวจค้น พบของกลางซุกซ่อนในห้องเก็บของชั้นล่างของบ้าน และในช่องลับบริเวณท้ายกระบะของรถคันแรก เป็น
- ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 120 ก้อน
- วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) น้ำหนักรวม 120 กิโลกรัม
เจ้าหน้าที่จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมยึดของกลางไว้ตรวจสอบ
เผยตัวการสั่งงานผ่านไลน์ ให้เช่าบ้านและเปลี่ยนป้ายทะเบียน
จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ระบุว่าเครือข่ายนี้มีผู้สั่งการหลักชื่อ “พัด” พักอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก และทำงานร่วมกับ “โทนี่” (ยังไม่ทราบชื่อจริงและสัญชาติ) โดยเปิดกลุ่มไลน์เพื่อสั่งการ
รูปแบบการทำงานคือให้ผู้ต้องหาเช่าบ้านเป็นจุดพักเดือนละ 25,000 บาท และให้ผู้ต้องหาชาวเมียนมา 2 คน ทำหน้าที่เฝ้าพื้นที่ ขี่รถจักรยานยนต์นำทาง รวมถึงช่วยเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถเพื่อให้ข้ามไปฝั่งเมียนมาได้ ก่อนนำรถกลับเข้าไทยเพื่อรอขนต่อเข้าพื้นที่ชั้นใน
แจ้งข้อหาหนัก ก่อนส่งดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาสำคัญ ได้แก่
- ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
- ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


