Business
ดร.โสภณส่งข้อเสนอถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ดร.โสภณ ได้ส่งข้อเสนอถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาเรื่องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยโดยชาวต่างชาติ ในฐานะนายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล สำนักงานประเทศไทย (FIABCI-Thai) ดร.โสภณยังได้เชิญนายอนุทินเป็นประธานเปิดการสัมมนาในหัวข้อ “การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ: ข้อคิดสำหรับประเทศไทย” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ โดยภายในงานจะมีผู้เชี่ยวชาญจากเกือบ 10 ประเทศมาร่วมให้ข้อมูลสำคัญ
จากการสัมมนาดังกล่าว ดร.โสภณได้รวบรวมข้อสรุปเพื่อนำไปสู่การพัฒนามาตรการที่เหมาะสมในการจัดการเรื่องนี้
ปัญหาที่เกิดขึ้น
ปัจจุบันการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติในประเทศไทยเกิดปัญหาหลายด้าน เช่น
- การประกอบธุรกิจและบริการที่ผิดกฎหมาย เช่น การให้เช่าห้องชุดแบบโรงแรม
- ปัญหาแก๊งอาชญากรรมจากต่างประเทศ และการใช้ทรัพย์สินเพื่อกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม
- การซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับเพิ่มปัญหา เช่น การแข่งขันกับคนไทยในตลาดอสังหาริมทรัพย์
บางประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป ได้จำกัดหรือห้ามชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้
ข้อเสนอแนะ
- กำหนดคุณสมบัติผู้ซื้อ: ควรอนุญาตให้เฉพาะชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทยเท่านั้น เช่นเดียวกับในจีน ที่กำหนดว่าผู้ซื้อจะต้องพำนักในประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี
- กำหนดราคาขั้นต่ำ: ควรกำหนดราคาขั้นต่ำสำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่ชาวต่างชาติสามารถซื้อได้ เช่น มาเลเซียกำหนดไว้ที่ 15 ล้านบาท และอินโดนีเซียที่ 10 ล้านบาท
- จำกัดการขายต่อ: ควรกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำ เช่น 3 ปี ก่อนที่ชาวต่างชาติจะสามารถขายต่ออสังหาริมทรัพย์ได้ เพื่อป้องกันการเก็งกำไร
- จำกัดระยะเวลาเช่า: สำหรับการเช่าที่ดิน ควรจำกัดระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี ตามมาตรฐานประเทศอื่น
- สัดส่วนการถือครอง: ควรรักษาสัดส่วนไม่เกิน 49% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมดในโครงการ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่เหมาะสม
- เก็บภาษีการซื้อ: ควรเพิ่มอัตราภาษีการซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ เช่น 10-20% ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ
- ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรายปี: เก็บภาษีรายปีในอัตรา 1% ของมูลค่าทรัพย์สิน
- ภาษีกำไรจากการขาย: กำหนดให้ชาวต่างชาติเสียภาษีกำไรจากการขายในอัตรา 10-20%
- ภาษีการโอนมรดก: เก็บภาษีการโอนมรดกในอัตรา 10-20% ตามราคาตลาด
- กำหนดโซนที่ซื้อได้: ควรอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้เฉพาะในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น
- จัดการปัญหานอมินี: ควรปราบปรามการใช้นอมินีเพื่อซื้อหรือถือครองอสังหาริมทรัพย์แทนชาวต่างชาติอย่างเด็ดขาด
- ควบคุมการซื้อที่ดินอุตสาหกรรม: อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อหรือเช่าที่ดินเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและความมั่นคง
การควบคุมทางวิชาชีพ
อีกประเด็นสำคัญในการประชุมคือการควบคุมนักวิชาชีพ เช่น นายหน้า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน และผู้บริหารทรัพย์สิน เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและป้องกันการทุจริตในวิชาชีพ อาจพิจารณาออกกฎหมายเฉพาะเพื่อควบคุมมาตรฐาน เช่นเดียวกับประเทศมาเลเซีย
ข้อเสนอเหล่านี้สามารถช่วยให้ประเทศไทยจัดการเรื่องการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว