Business
กรมศุลกากรจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าออนไลน์ในอัตรา 1 บาท ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
กรุงเทพฯ – กรมศุลกากรไทยจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ที่มีมูลค่าต่ำ เริ่มต้นที่ 1 บาท ในปี 2569
กรมศุลกากรไทยลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ 5 ราย เพื่อเพิ่มการกำกับดูแลการนำเข้าสินค้าผ่านออนไลน์ และเริ่มจัดเก็บอากรขาเข้ากับสินค้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป ซึ่งเท่ากับยุติการยกเว้นอากรสำหรับพัสดุมูลค่าต่ำที่ใช้มานาน
อธิบดีกรมศุลกากร พันตำรวจโท พันธง ลอยกุลนันท์ ระบุว่า กติกาใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 และจะมาแทนเกณฑ์เดิมที่ยกเว้นอากรสำหรับสินค้ามูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท เขากล่าวว่าช่องว่างนี้ทำให้สินค้าจากต่างประเทศมีราคาต่ำกว่า และกระทบผู้ประกอบการไทย
แพลตฟอร์มที่ร่วมลงนาม ได้แก่ Lazada, Shopee Thailand, SHEIN, TikTok Shop Thailand และ TEMU
หน่วยงานประเมินว่าในปี 2026 จะมีพัสดุนำเข้าประมาณ 250 ล้านชิ้น มูลค่ารวมมากกว่า 45,000 ล้านบาท (ราว 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะช่วยยกระดับมาตรฐานการนำเข้า เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้บริโภค และสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม
พันธงกล่าวว่า การเก็บภาษีครั้งใหม่นี้จะครอบคลุมสินค้าเกือบทั้งหมดที่เคยได้ประโยชน์จากการยกเว้น โดยปีที่แล้วเพียงปีเดียว สินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทมีมูลค่าราว 30,000 ล้านบาท หรือประมาณ 150 ถึง 160 ล้านชิ้น
มาตรการนี้คาดว่าจะเพิ่มรายได้ภาษีราว 3,000 ล้านบาทต่อปี แต่เป้าหมายหลักคือช่วยลดความเสียเปรียบด้านราคาของผู้ประกอบการในประเทศ เมื่อเทียบกับสินค้านำเข้าที่ไม่ถูกเก็บอากร
โครงสร้างภาษีใหม่ สินค้ามูลค่าต่ำจำนวนมากอยู่ในกลุ่มแฟชั่น
เสื้อผ้าและรองเท้าจะถูกเก็บอากรราว 30% กระเป๋าราว 20% ส่วนสินค้าอื่น ๆ จะคิดตามพิกัดศุลกากรของแต่ละประเภท โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 10% ถึง 20% ขึ้นกับชนิดและวัสดุ
ศุลกากรยังระบุว่า มาตรการนี้จะช่วยกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานออกจากตลาด โดยกรมจะส่งรายชื่อสินค้าควบคุมให้แพลตฟอร์ม เพื่อคัดกรองสินค้าที่ต้องมีใบอนุญาต เช่น การอนุมัติจาก อย. หรือมาตรฐานจาก สมอ. ให้ได้ตั้งแต่ก่อนนำมาขาย
ในด้านการชำระเงิน แพลตฟอร์มส่วนใหญ่จะรวมภาษีและอากรไว้ในราคาที่แสดง ทำให้ผู้ซื้อจ่ายครั้งเดียวก่อนจัดส่ง ส่วนพัสดุที่ส่งผ่านไปรษณีย์ไทยอาจยังมีการเรียกเก็บอากรตอนส่งมอบได้
พันธงกล่าวว่า เมื่อแพลตฟอร์มร่วมมือกันตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง จะช่วยลดภาระการตรวจที่ด่านศุลกากร และทำให้การบังคับใช้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เขาย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้มองแค่รายได้ แต่ต้องการสร้างระบบการค้าที่โปร่งใส เป็นธรรม และอยู่บนกฎหมายในระยะยาว
ด้าน ธมกร ศุภธนารังศรี รองประธานฝ่ายรัฐสัมพันธ์ Lazada Thailand กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนสำคัญมาก เพราะต้องใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลและมาตรฐานร่วมกัน แพลตฟอร์มไม่สามารถจัดการทุกประเด็นด้านกฎระเบียบได้ลำพัง และต้องทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อให้การเติบโตเป็นธรรมและคุ้มครองผู้บริโภค
เขายอมรับว่าผู้ขายบางรายอาจได้รับผลกระทบในช่วงเริ่มปรับตัว แต่ระยะยาวจะเป็นผลดี เพราะทุกฝ่ายอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน และช่วยให้ระบบการซื้อขายปลอดภัยขึ้น พร้อมเสริมว่า Lazada ได้สื่อสารกับผู้ขายและเตรียมความพร้อมล่วงหน้าก่อนเริ่มใช้จริงในเดือนมกราคม 2026

