Chiang Rai News
พ่อค้าแม่สาย เชียงราย ร้อง ครม.กระตุ้นเศรษฐกิจ
เชียงราย – 1 ธันวาคม 2567 บรรยากาศการค้าขายที่ด่านศุลกากรแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังคงเงียบสงบ เจ้าหน้าที่ศุลกากรแม่สาย เผยว่ามีผู้ข้ามแดนเพียงวันละประมาณ 1,000 คนเท่านั้น
พ่อค้าแม่ค้าในอำเภอแม่สาย เผยว่าโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เออเหนือคนลาเขื่อง” ช่วยชุมชนได้น้อยมาก พ่อค้าแม่ค้าในตลาดกำลังประสบปัญหา
พ่อค้าแม่ค้าในตลาดดอยวาวและตลาดสายลมจอย เผยว่า ตั้งแต่เกิดอุทกภัยเมื่อวันที่ 9-13 ตุลาคม 2567 ไม่ได้รับการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจใดๆ เลย ได้รับเพียงการช่วยเหลือด้านการเงินจากกระทรวงมหาดไทยและองค์การบริหารส่วนจังหวัดเท่านั้น
นางแอ่ว ธีโสพัฒน์ เจ้าของร้านขายจิวเวลรี่ เปิดเผยว่า ใช้เวลากว่า 2 เดือนจึงฟื้นตัวและขายสินค้าได้ตามปกติ
เผยยอดขายลดลงกว่า 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นางสาวแสงเดือน ว่องวานิช เจ้าของร้านขายของชำ เปิดเผยว่า ร้านค้าได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเป็นมูลค่าหลายแสนบาท และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ
ปัจจุบันมีรายได้วันละหลายพันบาท แต่ตอนนี้รายได้ไม่ถึงพันบาท จึงขอความเห็นใจจากภาครัฐและอย่าชักช้าในการแก้ไขปัญหานี้
ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิชัย ชุณหวชิร ลงพื้นที่แม่สายเพื่อตรวจเยี่ยมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และประกาศว่ากระทรวงกำลังดำเนินการร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐเพื่อพัฒนามาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
น้ำท่วมทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อชีวิต อาชีพ และธุรกิจของประชาชนอย่างรุนแรง
กระทรวงการคลังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินของรัฐในการจัดหามาตรการช่วยเหลือทางการเงิน เช่น พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย และลดอัตราดอกเบี้ยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้ปรับงบประมาณฉุกเฉินเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ว่าราชการจังหวัดเพิ่มเติม งบประมาณนี้สามารถใช้ช่วยเหลือทั้งภาครัฐและข้าราชการได้
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้จัดสรรเงิน 5 หมื่นล้านบาท จากโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ GSB Boost Up ของธนาคารออมสิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับฟื้นฟูกิจการ
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ให้สินเชื่อแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเพียงพอตามโครงการดังกล่าว รวมถึงโครงการสินเชื่ออื่น ๆ จากสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME Bank) จึงได้จัดทำโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SME ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการทางการเงินในระยะต่อไปจะเน้นการช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
กระทรวงการคลังเน้นย้ำความสำคัญในการดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้ดีที่สุด จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและออกมาตรการดูแลประชาชนอย่างทันท่วงทีและเหมาะสมกับสถานการณ์
