Chiang Rai News
เจ้าหน้าที่เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยตู้คีบตุ๊กตาหยอดเหรียญ จ.เชียงราย
เชียงราย – เจ้าหน้าที่เชียงรายสั่งเก็บตู้คีบตุ๊กตาหยอดเหรียญจากห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และร้านเกมทั่วจังหวัด เพื่อตัดโอกาสเด็กเรียนรู้พฤติกรรมคล้ายการพนันที่แฝงมาในรูปแบบความสนุก
ตู้คีบตุ๊กตาที่พบเห็นกันบ่อยในสถานที่ยอดนิยมสำหรับครอบครัว มักล่อตาล่อใจด้วยของเล่นและแสงสี รวมถึงเสียงเพลงสดใส แม้ดูเหมือนสนุกปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการเล่นรูปแบบนี้เปิดโอกาสให้เด็กได้สัมผัสกับการพนันตั้งแต่เล็ก
คำสั่งให้ถอนตู้เกิดขึ้นหลังหลายครอบครัวร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัด โดยแนวทางนี้เหมือนกับที่จังหวัดอื่นในไทยใช้จัดการตู้เกมที่เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมาย “ตู้พวกนี้ไม่ใช่ของเล่น เด็กถูกชักจูงให้เสี่ยงโชค” พ.ต.อ. สมศักดิ์ พรมมา รองผู้กำกับ สภ.เมืองเชียงราย ย้ำระหว่างแถลงข่าว ระบุมีผู้ปกครองมากมายแจ้งความเป็นห่วง เด็กใช้เงินค่าขนมหรือเงินเก็บเล่นซ้ำจนแทบไม่ได้รางวัล เรียกร้องเจ้าหน้าที่ดำเนินการเร็วเพื่อดูแลอนาคตเด็กไทย
ปัจจุบันมีตู้คีบประมาณ 150 เครื่องรอถอดออกจากจุดต่างๆ เช่น เซ็นทรัลพลาซ่าเชียงรายและตลาดกลางคืน เจ้าหน้าที่และทีมสวัสดิการเด็กเริ่มเข้ายึดตู้ตั้งแต่วันจันทร์แล้ว โดยบางร้านถูกยึดมากถึง 42 ตู้
โทษปรับและคุกสำหรับผู้ฝ่าฝืน
เจ้าของเครื่องต้องเคลื่อนย้ายตู้ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นจะต้องเสียค่าปรับเครื่องละ 2,000 บาท หรืออาจถึงขั้นถูกจำคุก บางผู้ประกอบการเปิดใจว่าไม่รู้ว่าตู้เหล่านี้ผิดกฎ มีแต่คิดว่าเป็นแค่เกมสนุก “เอาออกดีกว่า เดี๋ยวมีปัญหา” ผู้จัดการห้างคนหนึ่งกล่าว
ตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ.2478 ของไทย ตู้คีบตุ๊กตาถูกจัดว่าเป็นอุปกรณ์การพนันที่ผิดกฎหมาย เอกสารแนบท้ายระบุชัดว่าเป็นการแข่งขันผลประโยชน์ระหว่างผู้เล่นกับเจ้าของตู้ เกมที่ใช้เงินเพื่อความเสี่ยงผลลัพธ์ไม่แน่นอนถือเป็นการพนัน ค่าหยอดแต่ละครั้งตั้งแต่ 10 ถึง 100 บาทโดยไม่มีรางวัลแน่นอน ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้ในปี 2547 ว่าตู้คีบฯ เปรียบได้กับตู้สล็อต เป็นเครื่องมือพนันที่เปิดให้สาธารณชน
แต่ที่ผ่านมาขั้นตอนบังคับใช้กฎหมายกลับไม่เด็ดขาด กระทรวงมหาดไทยเคยออกหนังสือสั่งห้ามออกใบอนุญาตตู้คีบตั้งแต่ปี 2549 ไทยเองเข้มงวดกับการพนันทุกรูปแบบ ยกเว้นลอตเตอรี่ของรัฐกับสนามม้า ปี 2563 กลุ่มเยาวชนเคลื่อนไหวเรื่องนี้สำเร็จสำรวจตู้กว่า 1,300 เครื่องใน 75 ห้างจาก 10 จังหวัด จนต้องออกคำสั่งห้ามอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ตู้เหล่านี้ก็กลับมาอีกหลังยุคโควิดโดยอาศัยจังหวะธุรกิจท่องเที่ยวฟื้น ที่เชียงรายปัญหาเงียบอยู่นานกว่าจะมีเสียงจากผู้ปกครอง
พิษตู้คีบตุ๊กตาต่อเด็ก
ตู้คีบมีโครงสร้างล่อใจให้เล่นซ้ำ เด็กบางคนรู้สึกว่าเล่นมีฝีมือแต่สุดท้ายผลขึ้นกับดวง “เจ้าของตู้ตั้งค่าให้ตู้จ่ายรางวัลต่ำแค่ 10-20% ส่วนใหญ่แขนกลจะอ่อนแรงจนหยิบไม่ได้” ดร.เอเรีย คอสราวี โครงการป้องกันการพนันเยาวชน YMCA ชี้ เด็กๆ ถูกจูงด้วยโอกาสชนะเล็กๆ ส่วนมากปล่อยรางวัลตกนิดเดียว บีบให้ลองใหม่อีก กลไกนี้เหมือนที่ใช้ในตู้สล็อตของคาสิโน เด็กจำนวนไม่น้อยมั่นใจว่าหยอดอีกนิดต้องได้แน่
สำรวจของคณะกรรมการการพนันสหราชอาณาจักรในปี 2022 พบ 1 ใน 3 ของเด็กอายุ 11-16 ปีเคยเล่นพนันในรอบปี และกว่า 70% เคยสัมผัสตู้คีบตุ๊กตาก่อนการพนันแบบอื่น ในไทย กลุ่มรณรงค์เยาวชนไร้การพนันเชื่อว่ายิ่งเริ่มเล่นตู้คีบเร็ว ยิ่งเสี่ยงเล่นพนันจริงในวัยรุ่น มีเด็กจำนวนมากควักเงินจนหมดแล้วคิดว่าดวงไม่ดี
ปัญหาแบบนี้มีให้เห็นในพื้นที่ต่างๆในเชียงราย เช่น ที่เวียงชัย นางนงลักษณ์ ศรีสุข แม่เลี้ยงเดี่ยวบอกว่า ลูกชายอายุ 12 ปีเพิ่งเสียเงิน 500 บาทให้กับตู้คีบในห้างเมื่อเดือนก่อน “เขากลับมาบ้านร้องไห้ ขอเล่นต่ออีกบอกว่าเกือบจะได้อยู่แล้ว พวกนี้ไม่ใช่เกมนะ มันสอนให้เสียเงินเป็นการพนัน”
ครูในโรงเรียนบ้านวัดศรีโพเงิน เผยว่าเด็กหลายคนยอมไม่กินข้าวกลางวันหลังเสียเงินหมดกับตู้คีบ แบบสำรวจเครือข่ายผู้ปกครองเชียงรายชี้ 65% เห็นว่าตู้คีบเป็น “ภัยซ่อนเร้นต่อเด็ก”
ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ เช่น เจ้าของร้านเกม แย้งว่าตู้คีบช่วยฝึกสมาธิและประสานมือกับสายตา ไม่ต่างกับวีดีโอเกม ความเห็นทางกฎหมายจากเชียงใหม่ในปี 2565 ถึงกับเทียบตู้คีบเป็นเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ ไม่ใช่เครื่องพนัน แต่ทางการกลางไม่เห็นด้วย “ไม่มีทักษะจริงในเกมนี้ ทุกอย่างขึ้นกับดวงและธุรกิจ เราไม่ได้แบนความสนุก แต่แบนกลอุบาย” นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายเยาวชนฯ กล่าว
เชียงรายไม่ได้ทำเดี่ยวๆ เดือนกันยายนที่ผ่านมา ภูเก็ตเขตถลางสั่งปิดตู้คีบ 50 เครื่อง สุราษฎร์ธานียึดไปกว่า 50 ตู้ ส่วนที่นครศรีธรรมราชบุกทลายร้านที่ขายรางวัลไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าค่าปรับจะเล็กน้อยเทียบกับกำไร แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะเข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ประกอบการเพิ่ม นักจิตวิทยาเด็กแนะนำให้ผู้ปกครองคอยดูพฤติกรรมการเล่นของลูก พูดคุยเรื่องแพ้ชนะ และส่งเสริมเกมที่อาศัยทักษะพร้อมรางวัลแน่นอนแทน
เชียงรายเริ่มเดินหน้าคัดแยกเด็กออกจากอิทธิพลของตู้เสี่ยงโชคเหล่านี้ สำหรับอาร์มและเพื่อนๆ บทเรียนสำคัญคือ ของรางวัลมีค่าเพราะความพยายาม ไม่ใช่เดิมพันเงินซ้ำไปซ้ำมา การเดินหน้าครั้งนี้สะท้อนความตั้งใจของไทยในการดูแลยาวชนให้ปลอดภัยจากการพนัน เริ่มต้นที่ละเครื่องทีละจุด