Crime News
ตำรวจไซเบอร์ภาค 5 จับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีออนไลน์ ซึ่งถูกจ้างให้เปิดบัญชีธนาคารปลอมและถอนเงินสด
ลำปาง – ตำรวจไซเบอร์ภาค 5 เข้าจับกุมผู้ต้องหา 9 คน ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการ “บัญชีม้า” ของแก๊งหลอกลวงออนไลน์ ตำรวจระบุว่าในกลุ่มนี้มีทั้งคนคุมงาน, คนถือบัญชีม้า, และคนทำหน้าที่กดเงินสดแล้วนำไปฝากต่อ เพื่อพยายามตัดเส้นทางการเงิน
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ กลุ่มผู้ต้องหามีการเดินทางมาจากแพร่ แล้วเช่าพักโรงแรมย่านใจกลางเมืองลำปาง จากนั้นรอเงินเข้าบัญชี ก่อนจะโอนต่อผ่านเครื่องรับฝากเงินสด (CDM) เพื่อแยกเส้นทางและทำให้ตรวจสอบได้ยากขึ้น
คดีนี้เริ่มจากการสืบสวนหลังวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เมื่อเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่าผู้เสียหายถูกหลอกให้โอนเงิน แล้วเงินถูกถอนออกเป็นเงินสดที่สาขาธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง
ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารและพื้นที่ใกล้เคียง จนพบชาย 3 คน เดินทางมาด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ นายวันเฉลิม ชาวตำบลแม่เกิ๋ง อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ซึ่งถูกเชื่อว่าเป็นผู้ถือบัญชีม้า ส่วนชายอีก 2 คน ยังไม่ยืนยันชื่อในตอนนั้น โดยพบพฤติการณ์ทำหน้าที่ขับรถ และคอยควบคุมการถอนเงินสด
หลังจากขยายผล เจ้าหน้าที่ไปยังโรงแรมบนถนนสวนดอก ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง ซึ่งเป็นที่พักของกลุ่มผู้ต้องหา และพบผู้ต้องหาครบ 9 คน
ตำรวจระบุชื่อ นายศุภกฤต อายุ 41 ปี ชาวตำบลพัฒนานิคม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เป็นคนที่คุมภาพรวมของการทำงาน นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาชายอีก 3 คน ที่ทำหน้าที่ควบคุมการถอนเงินและส่งต่อเงินสด และพบผู้ต้องหาหญิง 4 คน ซึ่งเชื่อว่าถูกจ้างให้ไปเปิดบัญชีธนาคารในพื้นที่ลำปาง
แนวทางสืบสวนระบุว่า กลุ่มนี้เดินทางมาด้วยกันจากจังหวัดแพร่ ขณะที่นายศุภกฤตรออยู่ในลำปาง ก่อนพากลุ่มไปยังโรงแรม ห้องพักถูกใช้เป็นจุดรวมตัวระหว่างไปเปิดบัญชี และรอให้เงินโอนเข้ามา
เมื่อมีเงินเข้าบัญชี ตำรวจเชื่อว่านายศุภกฤตจะพาผู้ถือบัญชีม้าไปถอนเงินสด แล้วส่งต่อให้ นายสมชาย นำเงินไปฝากเข้าตู้ CDM เพื่อโอนไปยังบัญชีอื่นต่ออีกทอดหนึ่ง
ระหว่างตรวจค้นและจับกุม เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเงินสดรวม 360,300 บาท ผู้ต้องหาให้การกับตำรวจว่า เงินดังกล่าวมาจากการถอนเงินที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า
ตำรวจแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ในความผิดเกี่ยวกับการเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 รวมถึงข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ตำรวจไซเบอร์ของไทยมีชื่อทางการว่า กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Crime Investigation Bureau, CCIB) อยู่ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นราวปี 2020 หลังคดีหลอกลวงออนไลน์พุ่งสูงช่วงสถานการณ์โควิด-19
ตั้งแต่นั้นมา CCIB ทำงานไล่ตามคดีสำคัญหลายรูปแบบ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์, หลอกลงทุนคริปโต, พนันออนไลน์, ฟอกเงิน, และขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งหลายคดีมีเครือข่ายข้ามประเทศจากประเทศเพื่อนบ้าน
คนทั่วไปมักเรียก CCIB ว่า “ตำรวจไซเบอร์” และยังเชื่อมงานกับหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หน่วยนี้มีปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทั่วประเทศ ยึดทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านบาท และประสานงานกับหน่วยงานต่างประเทศ เช่น Interpol เป้าหมายหลักคือ ตัดวงจรเครือข่ายอาชญากรรม และช่วยให้คนไทยปลอดภัยจากภัยออนไลน์มากขึ้น




