News
เกษตรกรเชียงรายพบทองคำในแปลงปลูกมันฝรั่ง
เกษตรกรเชียงราย พบว่ามันฝรั่งกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้ผลผลิตสูงกว่าพืชชนิดอื่น เนื่องจากมันฝรั่งเป็นวัตถุดิบที่อุตสาหกรรมอาหารต้องการในปริมาณมากเพื่อแปรรูปเป็นขนมขบเคี้ยว
ปัจจุบัน เป๊ปซี่โค เป็นผู้นำด้านธุรกิจขนมขบเคี้ยวระดับโลก โดยแบรนด์อันดับหนึ่งของไทยอย่าง “เลย์” สนับสนุนให้เกษตรกรไทยกว่า 5,800 ราย ปลูกมันฝรั่งบนพื้นที่กว่า 38,000 ไร่ ใน 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน ตาก เพชรบูรณ์ สกลนคร และนครพนม
โดยธรรมชาติแล้วมันฝรั่งเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น จึงเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดฤดูการปลูกอยู่ระหว่าง 15-18 องศาเซลเซียส
หากอุณหภูมิสูงกว่า 21 องศาเซลเซียส ลำต้นจะโตเร็ว แต่หัวจะบางลง และผลผลิตจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่ออุณหภูมิถึง 30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียส ทำให้มันฝรั่งเติบโตช้า แต่หัวมันฝรั่งจะเติบโตใหญ่ขึ้น
ดังนั้น การปลูกมันฝรั่งจึงต้องทำในพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 800 เมตร เพื่อให้อุณหภูมิต่ำพอที่จะทำให้มันฝรั่งเติบโตเป็นหัวได้
โดยธรรมชาติแล้ว มันฝรั่งต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ ความถี่ในการรดน้ำจะแตกต่างกันไปตามระยะการเจริญเติบโตของมันฝรั่ง ในระยะแรกหลังปลูก มันฝรั่งต้องการน้ำเพียงเล็กน้อย และจะค่อยๆ เพิ่มปริมาณน้ำขึ้นสูงสุดเมื่อดินปกคลุมต้นมันฝรั่ง และต้องการน้ำมากจนต้นฝรั่งแก่
ในระยะแรกของการปลูก ควรให้น้ำเพียงเล็กน้อยเพื่อให้มันฝรั่งงอก หากให้น้ำมากเกินไป หัวมันฝรั่งที่ปลูกอาจเน่าได้ เมื่อมันฝรั่งงอก ควรให้น้ำมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากหัวมันฝรั่งก่อตัวแล้ว หากไม่สม่ำเสมอ หัวมันฝรั่งจะผิดปกติ ในอดีต เกษตรกรมักปล่อยให้น้ำซึมเข้าไปในร่องดินเพื่อให้น้ำซึมเข้าไปในรากพืช เกษตรกรอาจช่วยตักน้ำขึ้นมาเพื่อให้ดินมีความชื้น ไม่แห้งหรือแฉะเกินไป
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มักทำให้มันฝรั่งมีเปลือกไม่สวยงามและเน่าได้ง่าย เมื่อใกล้เก็บเกี่ยว ควรหยุดรดน้ำประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนขุด
เนื่องจากน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการปลูกมันฝรั่ง เป๊ปซี่โคจึงร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมทักษะให้เกษตรกรไทยปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเรียนรู้วิธีการฟื้นฟูพื้นที่เกษตรอย่างเป็นระบบ
เช่น การปรับปรุงดินและให้ความรู้เกี่ยวกับแมลงและโรคพืช คุณภาพดิน การเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน การปรับความเป็นกรด-ด่างของดิน การใช้สารชีวภาพในการควบคุมโรคในดิน และการส่งเสริมการใช้ระบบน้ำหยด ซึ่งเป็นระบบน้ำที่มีประสิทธิภาพเหมาะสำหรับการปลูกมันฝรั่ง
เป๊ปซี่โคได้จัดตั้งฟาร์มตัวอย่าง 19 แห่ง โดยทำงานร่วมกับเกษตรกรตัวอย่างในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกมันฝรั่งเป็นพืชผลหลังนา โดยมีราคารับซื้อที่รับประกันภายใต้ข้อตกลงระบบเกษตรแบบสัญญา
นายอนุวัฒน์ พรหมมี อายุ 43 ปี รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นหนึ่งในเกษตรกรตัวอย่างที่ปลูกมันฝรั่งตามแนวทางเกษตรยั่งยืนของเป๊ปซี่โค
นายอนุวัฒน์ปลูกมันฝรั่งมาเป็นเวลา 7 ปี บนพื้นที่ปลูก 30 ไร่ ในตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
นายอนุวัฒน์ กล่าวว่า ในระยะแรกลงทุนปลูกมันฝรั่ง 2 ไร่ และให้น้ำสลับกันตามร่องดิน ผลผลิตต่อไร่มากกว่า 3,000 กิโลกรัม
วิธีนี้ต้องใช้แรงงานมากขึ้นและใช้เวลารดน้ำมากขึ้น ต้นไม้ไม่ได้รับน้ำสม่ำเสมอ ในปีที่มีฝนตกมาก ต้นไม้จะได้รับน้ำมาก ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้มันฝรั่งเน่าได้
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตมันฝรั่ง PepsiCo จึงสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกมันฝรั่งด้วยระบบน้ำหยด ส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.8 ตันต่อไร่ ทำกำไรได้ 25,000 บาทต่อไร่
ที่สำคัญ ช่วยประหยัดต้นทุน ลดการใช้น้ำ 40% เพิ่มมูลค่าผลผลิต 26% เพิ่มแป้ง 0.55% ลดต้นทุนแรงงาน 23% ลดเวลารดน้ำ 50% และลดต้นทุนสารเคมี 8%
นายอนุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังหมดฤดูฝนจะไม่เผาฟาง แต่จะฝังตอซังเพื่อใช้เป็นปุ๋ยบำรุงดิน หลังจากนั้นเตรียมแปลงปลูกโดยเริ่มปลูกมันฝรั่งช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม และเริ่มเก็บเกี่ยวมันฝรั่งช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
กลุ่มแรกทำหน้าที่ขุดมันฝรั่งออกจากดินแล้วส่งต่อให้กลุ่มที่สองคัดแยก
มันฝรั่งคุณภาพดีขายให้เป๊ปซี่โคราคากิโลกรัมละ 11 บาท มันฝรั่งลูกเล็กคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานขายที่ตลาดกิโลกรัมละ 3 บาท มันฝรั่งบางส่วนเก็บในห้องเย็นเพื่อใช้เป็นเมล็ดพันธุ์มันฝรั่งสำหรับปลูกในปีหน้า
กรมทางหลวงพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1020 เชียงราย-เชียงของ สำเร็จแล้ว
กรมทางหลวงพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1020 เชียงราย-เชียงของ สำเร็จแล้ว