News
การโจมตีจากกัมพูชาทวีความรุนแรงขึ้นในจังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย
กรุงเทพฯ – กัมพูชายิงปืนใหญ่โจมตีพื้นที่ชายแดนในจังหวัดสระแก้วอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย และบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายหลัง
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้ข้อมูลในการแถลงสถานการณ์ชายแดนช่วงบ่ายวันจันทร์ว่า การยิงถล่มเริ่มกระทบชุมชนในสระแก้วตั้งแต่เวลา 13.29 น. ของวันอาทิตย์ ทำให้ต้องมีการอพยพด่วน (การอพยพอย่างเร่งด่วน)
เช้าวันจันทร์ เวลา 07.30 น. มีรายงานว่ากัมพูชายิงจรวด RPG ถูกยุ้งฉางในอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ส่วนเวลา 11.30 น. กัมพูชาใช้อาวุธหนักยิงใส่ฐานทหารไทยในอำเภอตาพระยา และมีทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย ตามคำชี้แจงของโฆษกกลาโหม
พล.ร.ต.สุรสันต์ระบุว่า ขณะนี้ทหารไทยเสียชีวิตรวม 22 นาย จากเหตุการณ์สู้รบที่เกิดขึ้น
จังหวัดสระแก้วอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคกลางและบางส่วนของภาคตะวันออก
“การปะทะตามแนวชายแดนยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ช่วงก่อนหน้านี้ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 (ภาคอีสาน) เริ่มเบาลง แต่ตอนนี้เหมือนจะย้ายจุดหนักไปที่พื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1” พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าว
ด้าน พ.อ.ริชา สุขสุวรรณ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การระดมยิงในสระแก้วเกิดขึ้นในจังหวะที่กองกำลังบูรพาเริ่มปฏิบัติการจริงจังเพื่อทวงคืนพื้นที่ที่ระบุว่ากัมพูชารุกล้ำเข้ามาเป็นเวลานาน ได้แก่ บ้านหนองจาน, บ้านหนองยายแก้ว และบ้านคลองแปลง
เขาระบุว่า การยิงถล่มของกัมพูชาทำให้บ้านเรือนเสียหายหนักในอำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา
ผู้สื่อข่าวยังได้ดูวิดีโอที่ระบุว่าเป็นรถยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เคลื่อนผ่านหมู่บ้านฝั่งกัมพูชา พร้อมยิงเข้ามาในไทย โดยยิงจากจุดที่เป็นพื้นที่พลเรือน
“นี่เป็นการกระทำที่โหดร้าย และละเมิดสิทธิรวมถึงอนุสัญญาต่าง ๆ” พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าว
ข้อมูลถึงเช้าวันจันทร์ระบุว่า มีพลเรือนไทยเสียชีวิต 37 รายจากผลกระทบทางอ้อมของสงคราม ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการปิดบริการของโรงพยาบาลระหว่างการปะทะ และมีพลเรือนไทยอีก 1 รายเสียชีวิตจากสะเก็ดจรวดของกัมพูชา
สถานการณ์ยังส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาล 217 แห่ง ขณะเดียวกันหน่วยงานไทยจัดตั้งศูนย์พักพิง 848 แห่ง รองรับผู้ต้องอพยพ 167,395 คน

